วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560

10 อันดับสุนัขยอดฮิตของคนไทย


Image result for การ์ตูนหมา








 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย




 1. ชิวาวา (Chihuahua)


           สุนัขตาโปนที่ถูกเรียกชื่อตามรัฐชิวาวา ซึ่งเป็นชื่อของรัฐแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของเม็กซิโก นอกจากจะเป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่สุดในโลกแล้ว ด้วยลำตัวขนาดเล็กกะทัดรัด สะดวกแก่การพกพา บวกกับนิสัยขี้เล่น ขี้อ้อน จึงส่งผลให้ผู้คนส่วนใหญ่นิยมนำชิวาวามาเลี้ยงเป็นเพื่อนเล่น ดังที่เห็นได้จากการที่ชิวาวามักจะปรากฏตัวพร้อมกับเหล่าเซเลบริตี้คนดังอยู่บ่อย ๆ นั่นเอง

           
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของชิวาวา

           รูปร่างลักษณะของชิวาวาที่ดีและสมบูรณ์แบบนั้น จะต้องมีหัวหรือกะโหลกศีรษะกลม หน้าสั้น ส่วนเรื่องลำตัวจะยาวหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะของแต่ละตัว ทั้งนี้ พวกมันจะมีความยาวของขาที่ได้สัดส่วนพอดี เมื่อมองจากลำตัวที่ตัดจากลำคอไปถึงหาง ดูแล้วจะเห็นเป็นทรงสี่เหลี่ยม ส่วนท่าทางการเดินจะเตะขาเหมือนม้า

           อุปนิสัยของชิวาวาที่นอกเหนือจากหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดูแล้ว ยังค่อนข้างติดเจ้าของ ชอบประจบประแจง แถมบางตัวก็แอบหยิ่งนิด ๆ ถ้าไม่ใช่เจ้าของตัวเองจะไม่ค่อยให้แตะเนื้อต้องตัว และค่อนข้างปากเปราะ เห่าเสียงดังเหมือนสุนัขพันธุ์เล็กทั่วไป

           
 การเลี้ยงดูชิวาวา

           เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้แต่ชิวาวามีอายุเฉลี่ย 13-15 ปี เลยทีเดียว นั่นเป็นเพราะร่างกายของชิวาวาแข็งแรงมาก และไม่ค่อยพบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับสุนัขพันธุ์อื่น ๆ แต่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงแรกคลอด ทั้งนี้เจ้าของควรดูแลลูกชิวาวาโดยให้กินนมแม่ไปก่อน หลังช่วง 1 เดือนครึ่ง ค่อยเปลี่ยนมาเป็นอาหารเม็ดที่แช่ทิ้งไว้ในน้ำหรือนมแพะเพื่อให้นิ่ม หากไม่สะดวกอาจจะเปลี่ยนมาเป็นอาหารเหลวสำหรับลูกสุนัข เพื่อฝึกให้สุนัขเลียหรือกินอาหารได้เอง



10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย


 2. ปอมเมอเรเนียน (Pomerania)
           ก่อนที่เจ้าปอมเมอเรเนียนจะกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงตัวเล็กแสนซนในบ้านเรา เจ้าปอมเมอเรเนียนเคยเป็นสุนัขที่ถูกเลี้ยงเอาไว้เพื่อใช้งาน ว่ากันว่าต้นตระกูลของพวกมันเป็นสุนัขลากเลื่อนของประเทศไอซ์แลนด์และโปแลนด์ ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป แต่ในเวลาต่อมาก็ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปอมเมอเรเนียนมีขนาดตัวเล็ก ตาแป๋ว ตัวกลม ขนฟูอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของปอมเมอเรเนียน

          ปอมเมอเรเนียน เป็นสุนัขที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 1.7-2.5 กิโลกรัม ถ้าน้ำหนักน้อยหรือมากกว่านี้ จะถือว่าไม่ได้มาตรฐานสายพันธุ์ นอกจากนี้พวกมันยังมีขนชั้นในที่แน่นและนุ่ม ส่วนขนชั้นนอกจะหยาบกว่าชั้นในเล็กน้อย หางสวยงามเป็นพวง และตั้งอยู่ในตำแหน่งสูงขนานไปกับแผ่นหลัง

          โดยลักษณะนิสัยพื้นฐานของปอมเมอเรเนียน เป็นสุนัขที่ตื่นตัวเสมอ มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น อวดดี สง่างาม และขณะก้าวย่างแสดงถึงความมีชีวิตชีวา ถือว่าเป็นพันธุ์ที่สมบูรณ์ทั้งรูปร่างและการเคลื่อนไหว ข้อเสียคือ อาจจะเห่าพร่ำเพรื่อไปสักนิด ทำให้เจ้าของที่ไม่ชินกับธรรมชาติของมัน อาจรู้สึกเครียดได้

          
 การเลี้ยงดูปอมเมอเรเนียน

          ปอมเมอเรเนียนต้องได้รับการแปรงขนทุกวันหรืออาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพื่อที่ให้ขนที่หนาและสวยไม่พันกัน อาจต้องเล็มบ้างเป็นครั้งคราว และไม่ควรอาบน้ำให้ปอมเมอเรเนียนบ่อย เพราะจะทำให้ผิวหนังกับขนแห้งจนเกินไป นอกจากการดูแลขนแล้ว สิ่งที่สำคัญที่มากที่สุดสำหรับสุนัขปอมเมอเรเนียน คือ การได้รับการดูแลสุขภาพปากและฟันเป็นอย่างดี เนื่องจากปอมเมอเรเนียนง่ายต่อการสูญเสียฟันอันเนื่องมาจากปัญหาฟันผุ หรือสุขภาพเหงือกไม่ดี จึงต้องหมั่นทำความสะอาดฟันให้เป็นประจำ และควรให้อาหารชนิดแห้งเพื่อลดปัญหาในช่องปาก







 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 3. ชิสุ (Shih Tzu)

           ที่มาของชิสุก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน เพราะเป็นถึง 1 ใน 3 สุนัขชั้นสูงจากจักรพรรดิจีน โดยมีการคาดการณ์กันว่า ชิสุ มีต้นกำเนิดจากทิเบต เนื่องจากตามประวัติศาสตร์ของชาวทิเบตถือว่า สิงโต เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อทางศาสนา พระชาวทิเบต (Lama) จึงได้ผสมสุนัขพันธุ์เล็กขึ้นมาให้มีลักษณะคล้ายคลึงกับสิงโต ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า ขนแผงคอของ ชิสุ คล้ายกับแผงคอของสิงโต รวมไปถึงท่าทางการเดินหรือการเคลื่อนไหวที่สง่างาม อีกทั้งความหมายของคำว่า ชิสุ ยังแปลว่า สิงโต อีกด้วย

            ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของชิสุ

           ชิสุ เป็นสุนัขขนาดเล็กในกลุ่มทอย (Toy Group) มีน้ำหนักประมาณ 4.5-7.5 กิโลกรัม ส่วนสูงประมาณ 25-27 เซนติเมตร ลักษณะของศีรษะต้องกลมโต สีกลางหน้าผากขาวเด่น ปากสั้น ความยาวของลำตัวมากกว่าความสูงเล็กน้อย กล้ามเนื้อบึกบึน กระชับ และเดินหน้าเชิด การย่างก้าวสง่าผ่าเผยทั้งนี้ ชิสุ เป็นสุนัขที่มีนิสัย กล้าหาญ ตื่นตัว ขี้ประจบ มีความสง่าอยู่ในตัว อีกทั้งยังเป็นสุนัขที่รักความสะอาด เป็นมิตรกับทุกคน ปรับตัวได้ดี ชอบที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ กับเจ้าของ หากมีเวลาเจ้าของควรพามันไปวิ่งเล่นหรือออกกำลังกายบ้าง

           
 การเลี้ยงดูชิสุ

           ชิสุมีอายุค่อนข้างยืนยาว คือประมาณ 10-18 ปี ตามแต่ปัจจัยต่าง ๆ เช่น อาหาร และการเลี้ยงดู โรคที่มักเกิดขึ้นกับชิสุ คือ โรคตาแห้ง โรคหูน้ำหนวกหรือหูอักเสบ ดังนั้นเจ้าของควรหมั่นทำความสะอาดตาและหูอย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ส่วนโรคอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับชิสุ ได้แก่ โรคนิ่ว โรคไต และไส้เลื่อน นอกจากนี้ดูแลขนด้วยการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน พร้อมกับการนวดให้ต่อมน้ำมันที่โคนขนขับน้ำมันออกมาเคลือบเส้นขนได้มากขึ้น จะทำให้ผิวหนังและขนของมันมีสุขภาพสมบูรณ์ และช่วยขจัดรังแคกับสิ่งสกปรกอื่นออกจากผิวหนัง



 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 4. ยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์ (Yorkshire Terrier)

          สุนัขที่เคยถูกเลี้ยงเอาไว้ใช้งาน ในการตามล่าและไล่จับหนูเหมือนกับแมวจากทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ มาตอนนี้ภาพเหล่านั้นกลับไม่มีให้เห็นอีกแล้ว เพราะยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์ หรือยอร์คกี้ ได้โด่งดังไปทั่วโลก ในฐานะสุนัขกลุ่มทอยที่เฉลียวฉลาด ขนสวย น่ารัก ที่คนทั่วโลกได้นำมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนข้างกายนั่นเอง

           ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์

          สุนัขยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย จัดอยู่ในกลุ่มทอย ด็อก (Toy Dog) น้ำหนักเฉลี่ยของพวกเขาจะอยู่ที่ 1-5.4 กิโลกรัม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเจ้าของที่ชอบแต่งตัวให้กับสุนัข เพราะตลอดทั้งลำตัวของมันจะถูกปกคลุมด้วยขนยาว ที่มีลักษณะเรียบลื่น สลวยสวยงาม ทั้งนี้ สีขนของยอร์คกี้จะมีสีน้ำตาลและดำในช่วงแรกเกิด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีเงินออกน้ำเงินและสีทองเมื่อเริ่มโตขึ้น

          ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย เป็นสุนัขที่เหมาะสมกับคนทุกช่วงอายุ และเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีสำหรับคนโสดหรือผู้ไม่มีบุตร หากบ้านใดมีเด็กเล็กอยู่ในครอบครัว ควรสอนเด็กให้รู้จักวิธีปฏิบัติตัวและวิธีเล่นกับยอร์คเชียร์ เพราะหากเด็กเล่นกับมันแรง ๆ ก็อาจทำให้มันบาดเจ็บได้ง่ายหรือบางทีอาจอันตรายถึงชีวิต เนื่องจากยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย ตัวเล็กและบอบบาง และการที่พวกมันถูกเด็กแกล้งเป็นประจำ ก็อาจทำให้พวกมันมีนิสัยเปลี่ยนเป็นก้าวร้าว โมโหง่าย หรืออาจถึงขั้นกัดคน แต่หากพ่อแม่รู้จักสอนลูก ๆ ให้ปฏิบัติตัวต่อยอร์คเชียร์อย่างดีแล้วล่ะก็ พวกมันจะเป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัวที่ดีได้เช่นกัน

          
 การเลี้ยงดูยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์

          การหมั่นแปรงขนให้ยอร์คกี้เป็นประจำทุกวัน ถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ ส่วนการอาบน้ำอาจทำแค่ 1 ครั้งต่อเดือนก็เพียงพอ ก่อนอาบน้ำควรใช้สำลีอุดหูให้เรียบร้อยและล้างแชมพูให้สะอาด โดยทำความสะอาดศีรษะกับใบหน้าเป็นส่วนสุดท้าย ก่อนจะเป่าขนให้แห้งด้วยความร้อนที่พอเหมาะ ส่วนเรื่องอาหารการกินของสุนัขยอร์คกี้ ควรเป็นอาหารเม็ดจะดีที่สุด เพราะมีความสะดวกในการเก็บรักษา และมีสัดส่วนสารอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ อาจผสมอาหารเปียกลงไปในอาหารเม็ดเพื่อเพิ่มความน่ากินเป็นบางครั้ง



Image result for บีเกิล
 5. บีเกิล (Beagle)

          สายพันธุ์สุนัขที่มีมานานกว่า 2,000 ปี โดยมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอังกฤษ จุดประสงค์เดิมถูกพัฒนาสายพันธุ์เพื่อใช้ในการกีฬาล่าสัตว์ และเนื่องจากบีเกิลเป็นสุนัขที่มีประสาทในการดมกลิ่นเป็นเลิศ จึงถูกนำมาฝึกให้เป็นสุนัขตำรวจ คอยตรวจสอบสิ่งของผิดกฎหมาย อย่างเช่น ยาเสพติด วัตถุระเบิด และอื่น ๆ ขณะเดียวกันก็ยังเป็นที่นิยมให้หมู่คนเลี้ยงสุนัขไปพร้อม ๆ กันด้วย

           ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของบีเกิล

          จัดอยู่ในสุนัขกลุ่มฮาวน์ (Hound) หรือสุนัขล่าเนื้อ ส่วนสูงอยู่ที่ 33-38 นิ้ว และมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 8-13 กิโลกรัม ลักษณะรูปร่างของบีเกิลมีขนาดลำตัวยาวกว่าความสูงเล็กน้อย หูปรก สีขนมีทั้งสีขาว ดำ และแทน โดยสีที่ผสมกันทุกสีจะเป็นที่ยอมรับมากที่สุด

          อุปนิสัยส่วนตัวของเจ้าบีเกิลก็น่ารักทีเดียว นอกจากจะสุภาพ กระฉับกระเฉง ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ แล้ว ยังสามารถเข้ากับเด็กและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม แถมมีพลังเล่นล้นเหลือไว้เป็นเพื่อนเล่นให้เจ้าของได้คลายเหงาอีกด้วย แต่บีเกิลมีข้อเสียนิดหน่อยตรงที่ค่อนข้างเชื่อคนง่าย ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับตำแหน่งสุนัขเฝ้าบ้านเท่าไหร่นัก

          
 การเลี้ยงดูบีเกิล

          สุนัขพันธุ์นี้ต้องอยู่ในบริเวณที่มีรั้วรอบขอบชิด เนื่องจากเป็นสุนัขที่ไม่มีสัญชาตญาณในการระวังภัยบนท้องถนนมากนัก และมักมีความเข้าใจอย่างผิด ๆ ว่า รถทุกคันจะหยุดรอให้พวกมันไปก่อนเสมอ นอกจากนี้จุดประสงค์ดั้งเดิมที่พวกมันถูกพัฒนาขึ้นมา ก็เพื่อเป็นสุนัขสำหรับล่าสัตว์ ทำให้พวกมันมีพลังงานในตัวมาก และชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเจ้าของควรพาไปออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง

          หากต้องการให้บีเกิลมีสุขภาพแข็งแรง เติบโตสมวัย ก็ต้องใส่ใจเรื่องนี้ให้มาก โดยการเลือกประเภทอาหารให้เหมาะสมกับวัย พร้อมทั้งหมั่นแปรงขนทุก ๆ 3-4 วัน เพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้วออกไป เท่านี้ขนของมันก็จะสลวยเงางามอย่างที่ต้องการแล้ว


 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 6. ปั๊ก (Pug)

           สุนัขอีกสายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศจีนเมื่อ 400 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งสมัยนั้นนิยมเลี้ยงไว้ในวัดจีน ก่อนจะถูกนำไปเลี้ยงยังสถานที่ต่าง ๆ จนได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เนื่องจากหน้าตากวน ๆ บวกกับรูปร่างอ้วนกลม และความร่าเริง ขี้เล่นของเจ้าปั๊ก จึงทำให้ถูกใจคนรักสุนัขเป็นอย่างมาก

            ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของปั๊ก

           ปั๊ก เป็นสุนัขพันธุ์เล็ก มีขนาดร่างกายเล็กปานกลางเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตัวตันมีกล้ามเนื้อแข็งแรง ส่วนใบหน้านั้นสั้นและย่น ตาโปนแลดูใจดี ใบหูพับตกลงด้านข้าง บนลำตัวปกคลุมด้วยขนสั้นเกรียนแต่นุ่มคล้ายกำมะหยี่ หางมีลักษณะบิดเป็นเกลียวชี้ขึ้นหรือม้วนจนเป็นวงติดกับบั้นเอว ถ้าหากหางม้วนได้ถึงสองตลบจัดว่าเป็นลักษณะที่สวยสมบูรณ์ที่สุด แต่พวกมันจะหายใจและกรนเสียงดัง

          สุนัขพันธุ์นี้เป็นที่นิยมเลี้ยงกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีนิสัยน่ารัก ถึงหน้าตาของมันจะยับย่นเหมือนกำลังคิดมากไปสักหน่อย แต่ถ้าได้ลองเลี้ยงแล้วจะหลงใหลความอ่อนโยนของมันโดยไม่รู้ตัว ข้อควรระวังในการเลี้ยง คือ ปั๊ก ทนสภาพอากาศที่ร้อนมากไม่ค่อยได้ อาจถึงขั้นเป็นลมแดดเลยทีเดียว แต่ถ้าอยู่ในอากาศเย็น ก็ควรให้อยู่ในที่อุ่น ๆ หรือหาเสื้อมาสวมใส่เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นหวัด

          
 การเลี้ยงดูปั๊ก

          ถึงแม้จะเป็นสุนัขขนสั้นที่ไม่ต้องตกแต่งหรือเสริมสวยมากนัก แต่ก็ต้องดูแลรักษาความสะอาด พร้อมกับพาพวกมันไปเดินเล่นหรือออกกำลังกายอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้กลายเป็นโรคอ้วนหรือเฉื่อยชามากจนเกินไป และเนื่องจากหน้าตาที่บูดบึ้งจึงทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่ดวงตาได้ง่าย หากปั๊กเริ่มขยี้ตาบ่อย กะพริบตาถี่ ตาเปลี่ยนสี หรือมีน้ำตามากเกินไป ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที นอกจากนี้ พวกมันยังมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจอยู่เสมอ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงด้วย


 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 7. บูลด็อก (Bulldog)

          สุนัขนักสู้ที่มีมานานกว่า 700 ปี แถมยังขึ้นชื่อในเรื่องความดุร้ายมากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคนที่หลงรักเจ้าสุนัขหน้าบึ้งแบบนี้อยู่ไม่น้อย ว่ากันว่าพวกมันมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอังกฤษ โดยสมัยก่อนพวกมันถูกเลี้ยงเอาไว้เพื่อใช้ต่อสู้กับวัว ซึ่งเป็นเกมกีฬายอดนิยมของคนอังกฤษในสมัยนั้น แต่หลังจากเกมกีฬาชนิดนี้หมดความนิยมลง กลุ่มคนรักบูลด็อกจึงหันมาเลี้ยงพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยง จนกระทั่งกลายมาเป็นสุนัขยอดนิยมของคนทั่วโลกในปัจจุบัน

           ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของบูลด็อก

          สุนัขสายพันธุ์บูลด็อก นอกจากจะมีรูปร่างบึกบึน ตัวหนา กล้ามเนื้อแข็งแรง พวกมันยังมีช่วงไหล่กว้างกว่าสะโพก ศีรษะใหญ่กว้าง หน้าสั้น บริเวณหน้าผากมีรอยย่นลึก และหางสั้นขดแน่นกับส่วนหลัง ส่วนอุปนิสัยและพฤติกรรมจัดว่าเป็นสุนัขที่มีความอดทนสูง และมีภาวะทางอารมณ์มั่นคงเสมอต้นเสมอปลายมากทีเดียว นอกจากนี้ภายใต้ใบหน้าอันเคร่งขรึมยังเต็มไปด้วยความตั้งใจแน่วแน่ กล้าหาญ และเด็ดเดี่ยวมากเลยทีเดียว

            การเลี้ยงดูบูลด็อก

           อาหารที่ให้บูลด็อกควรเป็นอาหารเม็ดสลับกับเนื้อสัตว์ปรุงสุกบ้าง แต่ไม่ควรปรุงแต่งด้วยรสเค็ม เพราะการให้อาหารเค็มหรือให้อาหารเม็ดตลอดเวลา จะส่งผลในระยะยาว เช่น ขนร่วง หรือมีอาการคัน เป็นต้น นอกจากนี้ควรให้อาหารเสริมแคลเซียมบ้างเป็นครั้งคราว ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการ ส่วนการทำความสะอาดแค่อาบน้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว และเนื่องจากเป็นสุนัขที่แพ้ง่าย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงบริเวณมีแมลง เช่น ยุง มด และสัตว์มีพิษ  


 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 8. ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)

           ความเป็นมาของไซบีเรียน ฮัสกี้ ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน เพราะเดิมเป็นสุนัขของชนเผ่าพื้นเมืองชัคชิ ในตอนนั้นพวกเขาพยายามพัฒนาสายพันธุ์เพื่อให้ได้สุนัขที่สามารถนำมาใช้งานได้ ทั้งการล่าสัตว์ หาอาหาร เฝ้ายาม และลากเลื่อนบนหิมะ ซึ่งความเก่งกาจของสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ เลื่องลือไปไกล จนได้ชื่อว่าเป็นสุนัขอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมสูง

           
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของไซบีเรียน ฮัสกี้

           ไซบีเรียน ฮัสกี้ มีอายุประมาณ 12-16 ปี ลำตัวปกคลุมด้วยขนหนากว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น สีขนส่วนใหญ่บริเวณเท้า ขา ท้อง รอบดวงตาจะเป็นสีขาว ดวงตามีสีฟ้า น้ำตาลเข้ม เขียว และน้ำตาลอ่อน บางตัวอาจมี 2 สีรวมกัน ความสูงเฉลี่ยอยู่ 50-60 เซนติเมตร น้ำหนักราว 15-28 กิโลกรัม

           สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ มีอุปนิสัยเป็นมิตร ขี้เล่น และเข้ากับคนได้ง่ายจึงทำให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี โดยส่วนใหญ่แล้วไซบีเรียนเพศผู้มักต้องการความสนใจ และชอบอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าของมากกว่าเพศเมียแต่ถึงแม้จะเป็นสุนัขใจดี ก็ไม่ควรปล่อยให้เล่นกับเด็กตามลำพัง เนื่องจากทั้งสุนัขและเด็กมักไม่รู้จักออมแรงในการเล่น จนอาจพลาดพลั้ง ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้

           
 การเลี้ยงดูไซบีเรียน ฮัสกี้

           การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่สำคัญมากของ ไซบีเรียน ฮัสกี้ เนื่องจากเป็นสุนัขที่มีอุปนิสัยกระตือรือร้น และชอบสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งการทำให้ไซบีเรียน ฮัสกี้ มีความสุข ยังช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการกินอาหารยากอีกด้วย และถึงแม้จะเป็นสุนัขที่มีขนหนาก็ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อย แต่หลังการอาบน้ำควรเป่าขนให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันโรคผิวหนัง


 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 9. โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)

          นาทีไม่มีใครที่ไม่รู้จักโกลเด้น รีทรีฟเวอร์อย่างแน่นอน เพราะเรามักจะเห็นสุนัขสายพันธุ์นี้โลดแล่นอยู่ในโฆษณาหรือภาพยนตร์บ่อย ๆ โดยสุนัขใจดีตัวนี้มีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษและสกอตแลนด์ เริ่มแรกเดิมทีถูกเลี้ยงเอาไว้เพื่อใช้เป็นสุนัขล่าสัตว์ของนายพราน ก่อนที่จะกลายเป็นสุนัขตำรวจและสุนัขบ้านในเวลาต่อมา

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของโกลเด้น รีทรีฟเวอร์

          โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ เป็นสุนัขในกลุ่มกีฬา (Sporting Group) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้งานในกีฬาล่าสัตว์ขนาดกลาง มีอายุเฉลี่ย 12–14 ปี ส่วนสูงราว ๆ 51-60 เซนติเมตร หนักประมาณ 22-26 กิโลกรัม มีสีหลายระดับสี มักจะเป็นสีออกครีมถึงสีเหลืองทองจนถึงกึ่งเข้มแดงมะฮอกกานี ขนแน่นหยักเป็นลอนเล็กน้อย โครงสร้างลำตัวสั้นกระชับได้สัดส่วน

           นอกจากนี้ยังเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า อุปนิสัยของ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ น่ารักสุด ๆ ไปเลย เพราะนอกจากจะมีเสน่ห์ ขี้เล่น ช่างประจบเอาใจเสียสละ และรักเจ้าของ พวกมันยังเป็นสุนัขที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ชอบอยู่กับคน แถมยังฝึกฝนง่ายอีกด้วย แต่สิ่งที่ควรระวังอย่างหนึ่ง คือ เจ้าของไม่ควรปล่อยให้สุนัขมีอิสระมากจนเกินไป และควรทำรั้วล้อมรอบบริเวณบ้านให้ดี มิเช่นนั้นอาจต้องตามหากันจนเหนื่อย เนื่องจากโกลเด้น รีทรีฟเวอร์  เป็นสุนัขที่ชอบเที่ยวและชอบผจญภัยนั่นเอง

          
 การเลี้ยงดูโกลเด้น รีทรีฟเวอร์

          เนื่องจากเป็นสุนัขที่มีขนร่วงมาก จำเป็นจะต้องแปรงและหวีขนให้มันสัปดาห์ละหลาย ๆ ครั้ง นอกจากนี้พวกมันจะมีความสุขมาก หากเจ้าของพาไปวิ่งเล่นในสนามโล่ง ๆ หรือพาไปว่ายน้ำบ้าง ส่วนเรื่องอาหารที่ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ขนาดโตเต็มวัยต้องการ ควรเป็นอาหารชั้นดี โดยให้เพียงวันละ 1 ครั้ง ในปริมาณที่เพียงพอ แต่ในระหว่างวันอาจให้บิสกิตเสริมได้วันละ 2 ครั้ง
 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย
 10. ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever)

          สุนัขจากคาบสมุทร ลาบราดอร์ ประเทศแคนาดา เดิมทีชาวประมงจะเลี้ยงไว้ใช้เก็บเหยื่อ จำพวกปลาที่หลุดออกจากเบ็ดหรือแห หรือคาบเป็ดป่าที่โดนยิงตกลงไปบนน้ำ ก่อนที่จะนำเข้ามายังประเทศอังกฤษและถูกพัฒนาสายพันธุ์ในภายหลัง พร้อมกับนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการล่าสัตว์ อาทิ ใช้ในการค้นหายาเสพติด วัตถุระเบิด และช่วยเหลือคนตาบอด เป็นต้น

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

          ลาบราดอร์ จะมีขนสองชั้น ชั้นนอกสั้น เหยียดตรง และแน่น ขนชั้นในนุ่มและช่วยปกป้องจากสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายได้ดี สีขนเป็นสีดำ สีเหลือง หรือสีช็อกโกแลต บางครั้งอาจมีจุดขาวบริเวณหน้าอก หางของ ลาบราดอร์ ดูคล้ายหางของตัวนาก โคนหางจะหนาและเรียวลงจนถึงปลายหาง

          ลาบราดอร์ เป็นสุนัขที่มีเสน่ห์และน่าเลี้ยงที่สุดพันธุ์หนึ่ง เนื่องจากฝึกง่าย พวกมันมักตื่นตัว กระฉับกระเฉง ช่างประจบ และสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี เป็นมิตรกับคน รวมทั้งสัตว์อื่น ๆ นอกจากจุดเด่นเรื่องความฉลาดแล้ว ลาบราดอร์ยังมีจมูกไวเป็นเลิศ พวกมันจึงถูกฝึกใช้ในงานข้าราชการ ดังภาพที่เราเห็นเป็นสุนัขตำรวจหรือสุนัขกู้ภัย เป็นต้น

           การเลี้ยงดูลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์


          เจ้าของควรแปรงขนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง พร้อมกับนำลาบราดอร์ไปวิ่งเล่นอย่างน้อยวันละ 30 นาที และหากมีเวลาก็ควรให้ได้ลงไปว่ายน้ำเก็บของบ้างเป็นครั้งคราว นอกจากนี้อย่าลืมพาพวกมันไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เนื่องจากลาบราดอร์จะมีปัญหาเรื่องโรคกระดูกข้อสะโพกหลุดหรือโรคกระดูกอ่อน เป็นโรคประจำตัวของสุนัขพันธุ์นี้



ที่มา : https://pet.kapook.com/view72079.html



วันอาทิตย์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2560

แมวไทย ๒๓ ชนิด

Image result for การ์ตูนแมว

แมวให้คุณ๑๗ ชนิด

วิเชียรมาศ

                                                                     แมววิเชียรมาศ “เพชรแห่งดวงจันทร์”

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • ลักษณะสีขน : ขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ (ทั้งแมวเพศผู้และแมวเพศเมีย) รวม 9 แห่ง ขณะที่อายุยังน้อย หรือเป็นลูกแมว สีขนจะออกสีครีมอ่อนๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามลำดับจนเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาด)
  • ลักษณะของส่วนหัว : รูปหัวไม่กลม หรือแหลมเกินไป หน้าผากใหญ่และแบน จมูกสั้น หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว
  • ลักษณะของนัยน์ตา : ตามีสีฟ้า
  • ลักษณะของหาง : หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว

ลักษณะที่เป็นข้อด้อย

ขนยาวเกินไป มีแต้มสีไม่ครบทั้ง 9 แห่ง แต้มสีอื่นที่ไม่ใช่สีน้ำตาลไหม้ นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่นๆ ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นเกินไป (เมื่อยืนขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว ) หางขอด หางหงิกงอ หางสดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี
แมวศุภลักษณ์ "แมวทองแดง" แมวศุภลักษณ์ “แมวทองแดง”

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • ลักษณะสีขน : ขนสั้น สีน้ำตาลเข้มคล้ายสีสนิม (สีทองแดง) บริเวณส่วนหู ใบหน้า ปลายขา หาง จะมีสีน้ำตาลเข้มกว่าบริเวณลำตัวทั่วๆ ไป
  • ลักษณะของส่วนหัว : ค่อนข้างกลมและกว้าง หนวดมีสีเหมือนลวดทองแดง หูใหญ่
  • ลักษณะของนัยน์ตา : แมวชนิดนี้จะมีดวงตาออกเป็นลักษณะเหลืองๆ หรือออกสีอำพัน หนวดของแมวศุภลักษณ์จะมีสีแวววาวเหมือนกับลวดทองแดงเลยทีเดียว
  • ลักษณะของหาง : หางยาว ปลายหางแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขาวยาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว

ลักษณะที่เป็นข้อด้อย

ขนยาวเกินไป สีอ่อนเกินไป มีแต้มสีขาวปน เช่น ที่บริเวณหน้าอก หรือช่องท้อง มีไม่สม่ำเสมอ เช่น มีลายเห็นเป็นทางตามลำตัว โดยเฉพาะตามใบหน้า ขาและหาง นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป (เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว ) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี
แมวมาเลศ"แมวโคราช"
แมวมาเลศ “แมวโคราช”
(คนสมัยโบราณมีความเชื่อว่า แมวสีสวาดเป็นแมวนำโชคลาภของคนโคราช แมวสีสวาดเคยประกวดชนะเลิศในระดับโลกมาแล้วในปี พ.ศ. 2503 ที่สหรัฐอเมริกา เป็นแมวตัวเมียชื่อว่าสุนัน และเป็นที่นิยมของชาวต่างประเทศมาก จึงนับว่าแมวไทยได้ทำชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยเป็นอันมาก)

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • ลักษณะสีขน : ขนสั้น สีสวาด (silver blue) ทั่วทั้งตัวและเป็นสีสวาดตั้งแต่เกิดจนตาย
  • ลักษณะของส่วนหัว : หัวเมื่อดูจากด้านหน้าจะเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ในแมวตัวผู้หน้าผากมีรอยหยักทำให้เป็นรูปหัวใจเด่นชัดมากขึ้น หูใหญ่ตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากสีเงิน หรือม่วงอ่อน
  • ลักษณะของนัยน์ตา : นัยน์ตาสีเขียวสดใสเป็นประกาย หรือสีเหลืองอำพัน ขณะยังเป็นลูกแมวตาจะเป็นสีฟ้า เมื่อโตขึ้นจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด และเมื่อเติบโตเต็มที่ตาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวใบไม้ หรือสีเหลืองอำพัน
  • ลักษณะของหาง : หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อย ๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว

ลักษณะที่เป็นข้อด้อย

ขนยาวเกินไป มีสีอื่นปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป (เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี
images
โกนจา“โกญจา”  แปลว่า  นกกระเรียน
(แมวสายพันธุ์โกนจา มีลักษณะคล้ายกับแมวสายพันธุ์ต่างชาติอีกสายพันธุ์หนึ่ง คือ บอมเบย์)

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • ลักษณะสีขน: ขนสั้น สีดำตลอดทั้งตัว
  • ลักษณะของส่วนหัว: รูปหัวกลมไม่ใหญ่มาก หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว
  • ลักษณะของนัยน์ตา: นัยน์ตาสีดอกบวบแรกแย้ม (สีเหลืองอมเขียว)
  • ลักษณะของหาง: หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อย ๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว

ลักษณะที่เป็นข้อด้อย

ขนยาวมากเกินไป ขนมีสีอื่นปะปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป ( เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว ) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูก

 

Thainilrut
“แมวนิลรัตน์”

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • แมวนิลรัตน์ เป็นแมวที่มีสีดำสนิททั้งตัว ขนเป็นมันแวววาว นอกจากนั้น เล็บ ลิ้น ฟัน และนัยน์ตา ยังเป็นสีดำอีกด้วย หางเรียวยาว ตวัดได้ถึงศีรษะค่อนข้างหายาก หากใครเลี้ยงไว้จะได้ทรัพย์สินเพิ่มพูน
(ปัจจุบัน ได้สูญพันธุ์แล้ว)
Thaivilดas“แมววิลาศ”

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • แมววิลาศ มีสีดำเกือบทั้งตัว ขนเรียบ ยกเว้นใบหูทั้ง 2 ข้าง ปากล่างลงมาถึงหน้าอก ปลายเท้าทั้ง 4 และจากท้ายทอยบนหลังจนถึงปลายหางมีสีขาว หางเรียวยาว นัยน์ตาสีเข้ม รูปร่างสวยงามน่ารัก ใครเลี้ยงจะได้เป็นเจ้าคนนายคน มีทรัพย์สินบริบูรณ์
(ปัจจุบันได้สูญพันธุ์แล้ว)
Thai9tam
“แมวเก้าแต้ม”

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • แมวเก้าแต้ม เป็นแมวสีขาว มีสีดำแต้มสีดำรวมเก้าแห่ง คือ บริเวณหัว คอ โคนขาหน้าและโคนขาหลังหลังทั้ง 4 ข้าง ไหล่ทั้ง 2 ข้าง และโคนหาง ลักษณะแต้มสีดำนี้จะเป็นวงกลมหรือปื้นเหลี่ยมก็ได้ ปลายหางเรียวยาว สีขาว ใครได้แมวเก้าแต้มไว้เลี้ยงดูก็จะทำให้การค้าขายรุ่งเรือง ร่ำรวย คนไทยโบราณมักเลี้ยงไว้ในพระราชสำนัก
(ปัจจุบันหายาก ที่เป็นพันธุ์แท้)
Thairattanakampon
รัตนกำพล”

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • แมวรัตนกำพล มีขนสีขาวดั่งหอยสังข์ยกเว้นบริเวณลำตัวมีสีดำคาดไว้ นัยน์ตาสีทอง ตามความเชื่อ ถ้าใครเลี้ยงไว้จะมียศถาบรรดาศักดิ์ และมีอำนาจบารมี
cat08

“แมวนิลจักร”

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น


  • นิลจักร เป็นแมวสีดำอีกชนิดหนึ่ง บริเวณลำคอมีขนขาวเป็นวง เหมือนมีจักรหรือพวงมาลัยคล้องคอ ใครเลี้ยงไว้ จะมากด้วยทรัพย์สินเงินทอง
(ปัจจุบันได้สูญพันธุ์แล้ว)
Thaimulilar
“มุลิลา”

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • แมวมุลิลา แมวมุลิลานี้ เป็นแมวขนสีดำ ขนเรียบเป็นมัน แต่บริเวณสองหูเป็นสีขาว นัยน์ตาสีเหลืองราวกลีบดอกเบญจมาศ แมวชนิดนี้ ตำราว่าให้เลี้ยงได้เฉพาะพระสงฆ์ ไม่ควรเลี้ยงตามบ้าน
เหตุผลนั้นคงเป็นเพราะบทกวีที่ว่า “หนึ่งด่างสองหูโดยหมาย ตำราท่านทาย ว่าควรจะเลี้ยงแต่สงฆ์ เล่าเรียนสิ่งใดมั่นคง มิได้ลืมหลงสำเร็จดังความปรารถนา”
ตำราท่านว่าไว้ เจ้าแมวชนิดนี้ พระสงฆ์ควรจะเลี้ยง ช่วยให้มีจิตใจตั้งมั่นในการเล่าเรียนไม่ออกนอกลู่นอกทาง เล่าเรียนสำเร็จตามปรารถนา
(ปัจจุบันได้สูญพันธุ์แล้ว)
กรอบแว่น
แมวกรอบแว่น “อานม้า”

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • กรอบแว่น หรือ อานม้า เป็นแมวมีขนสีขาวทั้งตัว ยกเว้นกลางหลังนั้นจะมีสีดำเหมือนอานม้าอยู่ และบริเวณขอบตาทั้งสองข้างเป็นสีดำ เหมือนกรอบแว่นตา ใครเลี้ยงไว้จะมีค่ามหาศาล และทำให้มีเกียรติยศชื่อเสียง
(ปัจจุบันได้สูญพันธุ์แล้ว)
J10323065-11
แมวปัดเสวตร“ปัดตลอด”
ลักษณะที่เป็นข้อเด่น
  • แมวปัดเสวตร (อ่านว่า แมว-ปัด-สะ-เวด) หรือ ปัดตลอด แมวชนิดนี้มีขนสีดำเป็นมันราบเรียบ ยกเว้นปลายจมูกจนถึงปลายหางมีขาว ดวงตามีสีเหลืองดั่งพลอยสะท้อนแสง ใครเลี้ยงไว้จะช่วยชูชื่อเสียงวงศ์ตระกูลให้เป็นที่รู้จักทั่วไป
(ปัจจุบันได้สูญพันธุ์แล้ว)
kajok
แมวกระจอก

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • ลักษณะสีขน ขนสั้น สีดำ มีขนสีขาว รอบจมูก
  • ลักษณะของส่วนหัว รูปหัวกลมไม่ใหญ่มาก หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว
  • ลักษณะของนัยน์ตา นัยน์ตาสีดอกบวบแรกแย้ม (สีเหลืองอมเขียว)
  • ลักษณะของหาง หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว
(ปัจจุบันได้สูญพันธุ์แล้ว)
biodiversity-25144-1
แมวสิงหเสพย์
(แมวสิงหเสพย์ หรือ แมวโสงหเสพย แมวชนิดนี้มีขนสีดำทั้งตัว แต่มีสีขาวอยู่บริเวณริมฝีปาก จมูกและรอบคอ นัยน์ตาสีเหลืองทอง ใครเลี้ยงไว้จะทำให้มีสมบัติเพิ่ม)

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • ลักษณะสีขน ขนสั้น สีดำ มีขนสีขาวรอบจมูก และที่คอ
  • ลักษณะของส่วนหัว รูปหัวกลมไม่ใหญ่มาก หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว
  • ลักษณะของนัยน์ตา นัยน์ตาสีดอกบวบแรกแย้ม (สีเหลืองอมเขียว)
  • ลักษณะของหาง หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว
(ปัจจุบันได้สูญพันธุ์แล้ว)

cat03

แมวการเวก

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • แมวการเวก เป็นแมวดำอีกชนิดหนึ่ง แต่ไม่ดำหมดทั้งตัว จะมีแต่ปลายจมูกที่มีแต้มสีขาวเล็กน้อย นัยน์ตาทั้งสองข้างสีเหลืองอำพันสดใส ถ้าได้เลี้ยงจะนำโชคลาภมาให้เจ้าของเปลี่ยนฐานะขึ้นไปเรื่อยๆ
(ปัจจุบันได้สูญพันธุ์แล้ว)
แมวจตุบท
แมวจตุบท

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • แมวจตุบท เป็นแมวสีดำ นอกจากปลายเท้าขึ้นมาจนถึงข้อพับทั้งสี่ข้างเป็นสีขาว นัยน์ตาเป็นสีเหลืองคล้ายดอกโสน ตำราว่าแมวชนิดนี้คนธรรมดาไม่ควรเลี้ยง ควรเลี้ยงเฉพาะราชนิกูล หรือเชื้อพระวงศ์เท่านั้น
(ปัจจุบันได้สูญพันธุ์แล้ว)
Image
แมวแซมเสวตร

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • แมวแซมเสวตร แปลว่า “แซมสีขาว” เป็นแมวชนิดนี้มีขนสีดำ แซมด้วยสีขาวไปทั้งตัว แต่ขนบางและค่อนข้างสั้น รูปร่างบางเพรียว ตามีสีเขียวเหมือนแสงหิ่งห้อย เดิมทีเคยเชื่อว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ได้พบอีกครั้ง(ปัจจุบันหายากมาก)
 แมวร้ายให็โทษ ๖ ชนิด
Thaituponlapet
แมวทุพลเพศ

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • แมวทุพลเพศ เป็นแมวร้ายชนิดหนึ่ง มีสีขาวหม่น หางขอด หรือม้วน นัยน์ตาสีแดงเหมือนเลือด ชอบขโมยปลากินในตอนกลางคืน ใครเลี้ยงไว้จะเกิดความเดือดร้อนเป็นประจำ
(ปัจจุบันได้สูญพันธุ์แล้ว)
พรรณพยัคฆ์
แมวพรรณพยัคฆ์

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • แมวพรรณพยัคฆ์ หรือ แมวลายเสือ มีลักษณะคล้ายเสือ มีขนสีมะกอกเขียว หรือมะกอกแดง หยาบกระด้าง นันย์ตาสีแดงดั่งสีเลือด เสียงร้องโหยหวนเหมือนเสียงผีโป่งร้องตามป่าเขา ชอบหลบซ่อนตามที่มืดในเวลากลางวัน ไม่ควรนำมาเลี้ยง เพราะจะทำให้เกิดความเดือดร้อน
*เคยเลี้ยงแมวลายเสือ แต่ไม่ใช่พรรณพยัคฆ์แท้ แต่มีนิสัยดุ และเมื่อโตเต็มที่จะชอบออกไปหาของดิบกินนอกบ้าน ชอบจับหนู ดุร้ายเมื่อหวงเหยื่อ และหนีออกจากบ้านในที่สุด…
(ปัจจุบันได้สูญพันธุ์แล้ว)
Thaihinnatoz
แมวหิณโทษ

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • แมวหิณโทษ แมวเพศเมียอีกชนิดที่ไม่ควรเลี้ยง แม้ว่าจะมีลักษณะดี ขนสวยงาม เข้ากับเจ้าของได้ดี แต่มีข้อเสียคือ ยามตั้งท้องครั้งใด ลูกแมวมักจะตายในท้องเสมอ ใครเลี้ยงไว้จะนำภัยพิบัติมาสู่บ้าน
(ปัจจุบันได้สูญพันธุ์แล้ว)
Thaikoppleng
แมวกอบเพลิง

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

แมวกอบเพลิง เป็นแมวที่ชอบอยู่ตามลำพังตามยุ้งข้าว ตามป่าไม่ค่อยจะพบคน เวลาพบคนมักกระโดดหนี ชอบทำตัวลึกลับ ให้โทษแก่ผู้ที่นำมาเลี้ยง
(ปัจจุบันได้สูญพันธุ์แล้ว)
cat18
แมวเหน็บเสนียด
  • แมวเหน็บเสนียด เป็นแมวที่พิการมาตั้งแต่กำเนิด โคนหางเป็นสีด่าง เวลานั่งมักเอาหางซ่อนไว้ใต้ก้นเหมือนค่างในป่า มีนิสัยโหดร้าย เที่ยวไล่กัดแมวตัวอื่นอยู่เสมอ ถ้านำมาเลี้ยงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล
(ปัจจุบันได้สูญพันธุ์แล้ว)
*************************

90358ca97133423ea7543f84d1cc00fc

แมวขาวมณี
(แมวขาวมณี หรือ ขาวปลอดเป็นสายพันธุ์ที่พบเห็นได้มากสุดในปัจจุบัน เป็นแมวไทยโบราณที่ไม่ได้มีบันทึกไว้ในสมุดข่อย จึงเชื่อว่าเป็นแมวที่เพิ่งกำเนิดในต้นยุครัตนโกสินทร์นี่เอง นิยมเลี้ยงไว้ในราชสำนักครั้งหนึ่งในสมัยรัชการที่5 แมวชนิดนี้เป็นที่โปรดปราณมาก ในต่างประเทศนิยมเลี้ยงกันเป็นคู่เพื่อให้ผลัดกันทำความสะอาดขน เป็นแมวที่ค่อนข้างเชื่อง เหมาะสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อนได้เป็นอย่างดี)

ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

  • สีขนและผิวกายขาวสะอาด ขนสั้น นุ่ม รูปร่างลำตัวยาวขาเรียว ทรงเพียวลม ไม่อ้วนหรือผอมเกินไป หัวไม่กลมโต แต่เป็นทรงสามเหลี่ยมคล้ายหัวใจ หน้าผากแบนใหญ่ หูขนาดใหญ่และตั้งตรงจมูกสั้น ดวงตาจะรีเล็กน้อยนัยน์ตาเป็นสีฟ้าหรือเหลืองอำพันสีใดสีหนึ่งเมื่อนำแมวขาวมณีตาสีฟ้า ผสมกับแมวขางมณีตาสี อำพัน ลูกที่ออกมาจะมีตาสองสี คือ สีฟ้าข้างหนึ่งและสีเหลืองอำพันข้างหนึ่ง ซึ่งเป็นลักษณะที่ถูกควบคุมโดยยีนด้อยในแมวขาวมณีแทบทุกตัวจะมีจุดด้อย เช่น ถ้ามีตาสองสีมักมีตาข้างหนึ่งที่ไม่ดี อาจมองเห็นไม่ชัดหรือมองไม่เห็นเลย ถ้าแมวตาสีฟ้ามักจะหูพิการ หรือไม่ได้ยินเสียงมากนัก และแมวตาสีเหลืองอำพันมักมีต่อมขนที่ไม่ดี

ลักษณะที่เป็นข้อด้อย

  • ความไม่ขาวปลอด มีสีใดสีหนึ่งแซมเข้ามา รวมถึงตาสองข้างเป็นคนละสีกัน (Odd eyes) หรือเป็นสีอื่นสีใดที่ไม่ใช่สีฟ้าหรือเหลืองอำพัน ก็ไม่เป็นที่ยอมรับ (อย่างไรก็ตาม ในต่างประเทศนั้นกลับนิยมแมวขาวมณีที่มีตาคนละสีมากกว่าตาสีเดียว) เช่นเดียวกับขนที่ยาวมากเกินขนาด หางคด หางขอด หางงอและ หางสั้น